ยุค 80 คือช่วง ค.ศ.1980-1989 หรือ พ.ศ.2523 – 2532 เป็นยุคสมัยที่เริ่มจะมีการพัฒนาขึ้นในด้านต่างๆ ไว่จะเป็นด้านเทคโนโลยี ด้านการสื่อสาร ด้านการศึกษา แต่ที่ชัดเจนและเห็นพัฒนาการมากที่สุด ก็คงจะเป็นการละเล่นของเด็กๆในสมัยนั้น แน่นอนว่าผู้เขียนเองก็อยู่ในยุค 80 เช่นกัน คือในปี 1982 ก็ได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาบนโลก ที่ประเทศไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น ตำบลในเมือง อันนี้ก็คือโชคดีอย่างที่หนึ่งแล้วที่ได้เกิดมายุคสมัยนี้ ยังทันได้ซื้อขนมถ้วยที่แม่ค้าหาบขาย นั้งกินกันแบบคลั้งไคลมาก จำได้ว่าสมัยนั้น ขนมไทยๆนี้มีแต่เจ้าอร่อยเหาะทั้งนั้น เจ้าไหนหาบผ่านบ้านต้องได้กวักมือเรียกมาใช้บริการกันละ
มาที่เรื่องการละเล่นกันบ้างในช่วงแรกๆนั้นยังได้เล่นการละเล่นที่ต้องใช้ร่างกายและพละกำลังประกอบการเล่นเป็นอย่างมาก เช่น มอญซ่อนผ้า ซ่อนหา ขายของ พ่อเเม่ลูก ว่าว จุดพลุ โดดยาง ดีดลูกแก้ว ตบไพ่ เขี้ยการ์ด ช่วงนี้จะอยู่ประมาณ อนุบาลถึงสักประมาณ ป.1 เห็นจะได้ จำได้ว่าเล่นเก่งสุดนี้จะเป็นซ่อนหานะ ไม่ค่อยได้เป็นคนหาเท่าไร แต่ดีดลูกแก้วนี้ยอมจริงๆ ไม่ค่อยโดน โดนกินตลอดชาติ ใกล้ๆยังยิงไม่ถูกเลยอ่อนจริง…
มาถึงยุคที่เทคโนโลยีถูกผสานเข้ากับของเล่น การละเล่นของพวกเราก็เปลี่ยนไป เริ่มเข้ามาเล่นกันอยู่แต่ในบ้าน ไปเล่นตามบ้านเพื่อบ่อยขึ้น ช่วงนี้ก็ประมาณป.2-6 เอาเท่าที่จำได้นะครับ จำได้ว่าเคยเล่นไอ้นี้
เกมบอลที่มันสนุกสนานมากมาย ไม่มีเป็นของตัวเองหรอกนะไปเล่นข้างบ้านเอา สมัยนั้นที่บ้านฐานนะค่อนข้างไม่ดี กว่าจะได้ของดีๆเล่นนี้ก็ขอเเล้วขออีก ส่วนการเล่นไอ้เจ้านี้ก็ง่าย ก็ตกลงกันว่าจะอยู่สีอะไร มันก็จะมีบอลลูกเล็ก กลิ้งไปมาในสนาม เพียงแต่หมุน ปุ่มตรงหน้าหมุนแรงมันก็จะแตะแรง แต่ที่ชอบสุดคงจะเป็นลูกทุ่ม มันจะมีหลุม อยู่ 6 หลุมเหมือนหลุมสนุกเกอร์นะ พอลูกมันตกลงไป แล้วมันจะดีดขึ้นมาเอง ถือว่าเป็นที่สนุกสนานกันมาในยุคนั้น ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบของเล่นในช่วงนี้มากมันดูแล้วมีของเล่นที่สร้างสรรค์เป็นส่วนใหญ่ อย่าง ไอ้เครื่องขับรถอย่างในภาพด้านล่างก็เคยเล่นเหมือนกัน
นอกจากนี้ยังมีพวกเกมกดต่างๆอีกมากมาย ที่กดกันเข้าไปจำได้ว่าเคยมี เครื่องหนึ่งเป็นเกมเรื่อดำน้ำอะไรประมาณนี้ และจำได้ว่าพ่อแปลงให้มันใช้ถ่านAA 2 ก้อนให้เพื่อให้มันเล่นได้นานขึ้น
ไอ้เกมกดพวกนี้มันเริ่มเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กสมัยนั้นกันมาก จากเล่นกันหลายๆคนก็ลดลงเริ่มเป็นกลุ่มเล็ก 4-6 คน จนกระทั้งฟ้าสาบสวรรค์สั่งหรืออย่างไรทำให้ไอ้เจ้านี้เกิดขึ้น
FR 102 เกมแฟมิลี่ มันเปลี่ยนชีวิตด็กสมัยนั้นกันไปเลยที่เดี่ยว บ้านใครมีนะเทพสุดไฮโซสุด ต่อคิวเล่นกันสนุกสุดยอด โดยส่วนตัวได้เล่นน้อยมากเครื่องเล่นไม่เก่งอะ ออกตลอดเล่นอะไรก็แพ้ ก็เลยได้แต่มองดูอยู่ห่าง นานๆเล่นที่ ก็เลยไม่ค่อยอะไรกับเจ้านี้มาก จนกระทั้ง…
มันมีรุ่นใหม่ออกมาคือ FR202 แล้วผมได้มันมาครอบครองด้วย รูปเอามาอ้างอิงนะ ของจริงมันไปไหนแล้วไม่รู้ หลังจากนั้นเพื่อนก็มาเล่นบ้านผมกันบ้างละชอบสุดก็เกมยิงปืนนะที่ ด้วลกับโจรคาวบอยนะ มันๆมาก แล้วทำท่าเหมือนคาวบอยด้วยนะจะได้อารมณ์มาก แต่แล้วมันก็ยังไม่พอมันดันมีเจ้านี้ออกมาอีก ทำให้พวก FR เงียบไป เกมใหม่ๆก็ไม่ค่อยมีออกมาอีก และเริ่มทำให้เด็กๆมีปัญหาเรื่องโดดเรียนกันขึ้น คือ เจ้า SuperFamicom นั้นเองที่จะได้เล่นต้องไปเล่นที่ร้านเสียเงินเสียทองกันไป
ผู้เขียนก็ไม่รู้นะว่าไอ้เครื่องนี้มันแพงมากไหม แต่คิดว่าคงจะหลายตังอยู่ เพราะมันทำให้เด็กๆต้องไปเล่นที่ร้านเกมกัน แต่ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้เขียนอยู่ห่างไกลร้านพวกนี้ นานจะได้ไปที่ ประจวบกับว่ามันมีกระแสรถทามิยาเข้ามา หรือ มินิ4WD ผมก็เลยไปเล่นอันนี้สะมากกว่า คันแรก รู้สึกจะเป็นเจ้าเนี้ย
สักพักพวกนี้ก็ตามมาก็มีเล่นกับเค้าอยู่บ้าง ส่วนใหญ่จะพังแล้วซื้อใหม่ไปเรื่อยๆ ไม่ได้เก็บ จำได้ว่ามีเจ้าพวกนี้ละนะ
รถผมนี้จะเร็วกว่าเพื่อน เพราพ่อเป็นช่างไฟฟ้า โมมอเตอร์ให้แรงมาก พวกถ่านก็ถ่านชาร์ตที่เค้าเล่นวิทยุสื่อสารกัน ก็สนุกดีนะ แต่เเล้วมันก็หมดยุคของพวกนี้ลง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตคือผมต้องย้าย บ้านจากขอนแก่นมาสกลนคร การที่ผมย้ายมาที่นี้ทำให้โลกของเล่นของผมเล็กลง จนกลับไปในจุดแรก คือ ไม่มีอะไรให้เล่น นอกจากปั่นจักรยานแข่งกัน ปั่นเล่นไปตามป่าเขาต่างๆ และแล้ว ที่สุดของการละเล่นชิ้นใหม่ก็มา นั้นคือ…
Ps1 หรือ playstation พอเจ้านี้มา เราก็กลับเข้าสู่รูปแบบเดิมคือ จับกลุ่ม 4-6 คนสุ่มหัวกันเล่นเกม ทั้งวันทั้งคืน สอดแจ้งก็หลายวันอยู่ที่เดียว แต่ผมไม่มีเป็นของตัวเองนะ ออกตังกันกับเพื่อน 4 คน แล้วแต่ใครมีมากน้อย จำได้ว่าออกน้อยสุดประมาณ 700-800 ก็เล่นสนุกกับมันไป ก็คงไม่ต้องบอกมั่งว่าเล่นเกมอะไรกันบ้างแน่นอนสุด วินนิ่งนั้นเอง ก็เล่นกันอยู่หลายปีเลยนะกับPs1 บวกกับคอมพิวเตอร์เริ่มเข้ามาตามบ้านเรือนกันมากขึ้น ก็เล่นเกมในคอมบ้าง Ps1 บ้างสลับกันไปมา ช่วงนั้นอินเตอร์เน็ตยังไม่แพร่หลายมากนัก สักพักใหญ่สักประมาณม.5 ม.6 PS2 ก็เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตมากขึ้น ถึงกับโดดเรียนไปเล่นกันเลยที่เดี่ยว
ก็เล่นกันไปควบคู่กับเกมในคอมและเกมแฟลชตามอินเตอร์เน็ตต่างๆ แต่ก็เริ่มมีการเก็บแคนดี้ทอยบ้าง กับพวกฟิกเกอร์ต่างๆ ตามแต่จะมี คือเจออะไรน่าสนใจก็เก็บ พวกเราก็หลงไปกับPS2 กันอยู่นานเลย จนกระทั้งปัจจุบัน
ปัจจุบันนี้ มันมีการละเล่นเกิดขึ้นมากมาย จนผู้เขียนเองก็ไม่รู้จะเล่นอะไรดี ก็เลยเกิดการต่อต้านเล็กๆขึ้นมา พอดีได้มีโอกาสลองเล่นเกมออนไลน์ เพราะสงสัยว่ามันจะสนุกอะไรขนาดนั้น ก็ลองเล่นดูเล่นไปสักพัก ก็บอกกับตัวเองว่าพอเถอะกับบ้าน จะมานั้งคลิกๆ อยู่ทั่งวันหรือไง จากนั้นมาก็เลยไม่ชอบเลยเกมออนไลน์เนี้ย คือมันเล่นไปแบบไม่มีจุดหมายเลยไปเรือยอย่างงั้นะเหรอคือเกม เกมมันต้องมีจบสิ ก็เลยคิดในใจดังๆว่าถ้ามีเกมออนไลน์ที่มีฉากจบเหมือนการ์ตูนเรื่องฮันเตอร์ตอนกรีดไอส์แลนด์ นะก็คงจะดีมาก มันค่อยน่าสนใจขึ้นมาบ้าง แต่ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้มันจะมีบ้างรึยังเกมออนไลน์ที่มีตอนจบ
สุดท้ายนี้การละเล่นของพวกเราเด็กยุค 80 ก็ยังคงต้องดำเนินชีวิตกันต่อไปตามแต่ความสนใจของแต่ละคน บทความนี้ก็เขียนในมุมมองของผู้เขียนจากประสบการณ์ในชีวิตที่ผ่านมา ในเมื่อเราคิดที่จะเล่นแล้วมันก็คงหยุดไม่ได้แล้วละ
สรุปสุดท้ายความโชคดีของเด็กยุค 80 ก็คือการที่เราได้เล่นทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการละเล่นแบบไทยๆ การได้เห็นพัฒนาการของของเล่นในรูปแบบต่าง เหมือนกับว่าพวกเราเป็นตัวเชื่อมระหว่างอดีตกับอนาคตที่ยังมีชีวิตอยู่นั้นเอง
ปล.1 ขอบคุณภาพประกอบจากgoogle(นึกจะหารูปอะไรก็หาเลย เลยไม่ได้เซฟลิงค์ไว้)
ปล.2 บทความที่เขียนเป็นเพียงในมิติการละเล่นของผู้เขียนเท่านั้นมันยังมีอีกมากเกียวกับยุค80
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น